ดาบตร. ประจำ สภ. โนนสุวรรณ ทำการ บุกยิง เมียสาว ผู้เป็นพยาบาล ขณะรับประทานกับเพื่อนอีก 3 คน คาร้านอาหาร ส่งผลให้ เมียนั้นบาดเจ็บอาการ สาหัส ส่วนทางด้านเพื่อนนั้นรับเคราะห์เสียชีวิตในทันที 2 ศพ โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจมาเอาชีวิตเพื่อน
โดยเป็นเหตุการณ์ บุกยิง ที่ผู้ก่อเหตุเป็น
ดาบตร. ประจำพื้นที่ สภ. โนนสุวรรณ ได้ลงมือ ณ ร้านอาหาร “กินข้าวบ้านเพื่อน” ผู้ประสบเหตุก็คือ เมียสาว ผู้เป็นพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลโนนสุวรรณและเพื่อนอีก 3 คน ซึ่งส่งผลให้เมียนั้นได้รับบาดเจ็บ สาหัส และเพื่อนอีก 2 คนนั้นเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที
ทั้งหมดนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 เมื่อเวลา 21.00 น. โดยตำรวจในพื้นที่ สภ.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุการยิงกันในพื้นที่ อ.โนนสุวรรณ ถนนสายโนนสุวรรณ-เสิงสาง จึงประสานหน่วยกู้ภัยสยามปู่อินทร์บุรีรัมย์ เข้าร่วมตรวจสอบ
ผู้ประสบเหตุนั้นมีด้วยกัน 3 รายได้แก่ นายจรัญ สุขวงศ์กฎ อายุ 43 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ตามลำตัวและหน้าผากรวม 9 นัด และนางสมคิด อายุประมาณ 42 ปี ภรรยานายจรัญ ถูกยิงบริเวณตามร่างกายรวม 6 นัด ทั้งคู่เสีบชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ, นางนุชจรีย์ แก้วจตุรัตน์ อายุ 42 ปี ถูกยิงบริเวณโหนกแก้ม 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ผู้ก่อเหตุคือ ดาบตำรวจอร่าม สังข์ชัย อายุ 44 ปี ผบ. หมู่ ป้องกันและปราบปราม ช่วยราชการพนักงานวิทยุ สภ.โนนสุวรรณ ผู้เป็นสามีของนางสาวนุชจรีย์ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
โดย น.ส. สุวรรณี เย็นรักศรี อายุ 38 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ได้กล่าวว่า ตนมารับประทานอาหารร่วมกับผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่เป็นเพื่อนร่วมงานกัน โดยในเวลาเกิดเหตุก็ได้มี ดต.อร่าม ผู้ก่อเหตุ ได้เดินเข้ามาในร้านอาหาร ก่อนที่จะทำการกระหน่ำยิงภายในร้าน ซึงหลังจากเกิดเหตุไปชั่วครู่ตนได้มีโอกาสคว้าแขนผู้ก่อเหตุ และสอบถามถึงเหตุผล แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะหลบหนีไป
หลังก่อเหตุนั้น ดต.อร่าม ได้ทำการหลบหนีได้อยู่ในบ้านพักของตนเอง โดยอยู่ร่วมกับลูกสาวอายุ 20 ปี ซึ่งทาง ผกก. สภ.โนนสุวรรณ ได้ทำการเกลี้ยกล่อม ใช้เวลาไปถึง 2 ชม.กว่า ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะยอมมอบตัว และพาตัวไปสอบสวนที่ สน. ในเบื้องต้นคาดการณืว่ามีเหตุจูงใจมาจากความหึงหวง จากความสนิดสนมกับหุ้นส่วนภายในร้านเดียวกัน
อดีตนักโทษ ติดคุก 16 ปี ออกมาทำงานสุจริต แต่โควิด-19 ระบาดหนัก จนรายได้หดหายก่อนหันมารับงาน ขนไอซ์ แล้วถูกจับกุมอีกครั้ง อดีตนักโทษ ขนไอซ์ – วันนี้ (26 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากบริเวณชายแดนเข้าสู่ตอนกลางของประเทศ ก่อนจะตั้งด่านสกัดจับได้ที่บริเวณ อ.พาน จ.เชียงราย
ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ชื่อว่า นายแจ้ง โตกำแพง อายุ 58 ปี พร้อมของกลางเป็นรถกระบะ 1 คัน ที่ขนยาไอซ์ ซุกซ่อนในกระสอบ น้ำหนักรวม 20 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท
ซึ่งนายแจ้ง สารภาพเพิ่มเติมว่าเคยติดคุกคดียาเสพติดครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปี 2542 เป็นเวลานานถึง 16 ปี ก่อนที่จะพ้นโทษในปี 2558 หลังจากนั้น เจ้าตัวก็ประกอบอาชีพสุจริตเรื่อยมาด้วยการขับรถกระบะขนของ ขนผักไปส่งใน จ.พิษณุโลก
โดยการที่โควิด-19 ระบาดอย่างหนักในปีนี้ ทำให้รายได้ของเขาลดน้อยลง และไม่มีทางเลือก จนต้องรับค่าจ้าง 100,000 บาท ในการขนยาไอซ์จากเชียงราย ไปส่งในพิษณุโลก แต่ก็มาถูกตำรวจจับกุมก่อนที่จะทำสำเร็จ
ตชด. ยึดยาบ้า 4.5 ล้านเม็ด ริมฝั่งโขง มูลค่ากว่า 4.5 ล้านบาท
ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ยึดยาบ้า 4.5 ล้านเม็ด ได้ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง จ.นครพนม เบื้องต้นผู้ต้องหายังลอยนวล ตชด. ยึดยาบ้า – วานนี้ (26 พ.ย.) ตำรวจตระเวนชายแดน สืบทราบว่าาจะมีการลักลอบขนยาเสพติดมาขึ้นฝั่งไทย บริเวณพื้นที่บ้านหาดทรายเพ หมู่ที่ 5ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จว.นครพนม
หลังจาก ตชด. ลาดตระเวนบริเวณบ้านหาดทรายเพ ก็ได้พบกับบุคลลต้องสงสัยจำนวน 3-4 คน นั่งอยู่ริมตลิ่งบันไดทางลงเขื่อนป้องกันตลิ่งพังริมฝั่งแม่น้ำโขง และเมื่อกลุ่มคนดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ จึงวิ่งหลบหนีเข้าไปในหมู่บ้าน
ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่บางส่วนวิ่งติดตามเข้าไป แต่ไม่สามารถตามตัวได้ทัน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบวัตถุต้องสงสัยรูปทรงสี่เหลี่ยมสีดำจำนวน 13 ก้อน ที่ภายในบรรจุยาบ้าประมาณ 4,550,000 เม็ด ราคาประเมิน 455,000,000 บาท ก่อนนำของกลางดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ชาวนาพะเยาเหลืออด บุกยิงพ่อค้ารับซื้อข้าว เสียชีวิตคาลานตากเหตุ ถูกกดราคาข้าว เหลือเพียงกิโลกรัมละ 9.50 บาท วานนี้ (25 พ.ย.) เกิดเหตุสลด ในต.ดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา เมื่อชาวนา ถูกกดราคาข้าว ต่ำเกินจะรับไหว ก่อนใช้อาวุธปืนยิงพ่อค้ารับซื้อข้าวเสียชีวิตคาลานตาก และรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้ก่อเหตุคือ นายสุพจน์ อายุ 58 ปี เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สารภาพว่า ตนเองได้นำข้าวมาขายให้กับผู้เสียชีวิตคือ นายธรรมนิตย์ อายุ 34 ปี แต่วันนี้ถูกกดราคาจาก 10.50 บาท ต่อกิโลกรัม เหลือเพียง 9.50 บาท ทั้งที่เป็นข้าวจากนาแปลงเดียวกัน
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร